พื้นฐานการปกครอง
ภูฏานเป็นประเทศที่มีการเปลี่ยนแปลงระบบการปกครองจากสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นประชาธิปไตยแบบรัฐสภาอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขในปี 2008 โดยพระราชาจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก กษัตริย์องค์ที่ 5 ทรงเป็นผู้ริเริ่มการปฏิรูปการเมือง การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดจากพระราชประสงค์ที่จะให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการปกครองประเทศมากขึ้น แต่ยังคงรักษาคุณค่าทางวัฒนธรรมและประเพณีดั้งเดิมของภูฏานไว้
โครงสร้างการปกครอง
ระบบการปกครองของภูฏานประกอบด้วยสถาบันหลักสามส่วน ได้แก่ สถาบันพระมหากษัตริย์ที่ทรงเป็นประมุขของรัฐและผู้พิทักษ์พุทธศาสนา รัฐสภาที่มาจากการเลือกตั้งและประกอบด้วยสองสภา และรัฐบาลที่มาจากพรรคการเมืองที่ได้รับเสียงข้างมากในการเลือกตั้ง ระบบนี้ถูกออกแบบให้มีการถ่วงดุลอำนาจระหว่างสถาบันต่างๆ โดยมีรัฐธรรมนูญเป็นกรอบในการปกครองประเทศ
นโยบายความสุขมวลรวมประชาชาติ
เอกลักษณ์สำคัญของการปกครองในภูฏานคือ การใช้หลักการ "ความสุขมวลรวมประชาชาติ" (Gross National Happiness - GNH) เป็นเป้าหมายในการพัฒนาประเทศ แทนที่จะเน้นเพียงการเติบโตทางเศรษฐกิจ นโยบายนี้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาที่สมดุลใน 4 เสาหลัก ได้แก่ การพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การส่งเสริมวัฒนธรรม และการบริหารจัดการที่ดี ทำให้การตัดสินใจทางการเมืองต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อความสุขของประชาชนเป็นหลัก
ความท้าทายและอนาคต
แม้ว่าระบบการปกครองของภูฏานจะประสบความสำเร็จในการรักษาสมดุลระหว่างประเพณีและความทันสมัย แต่ก็ยังเผชิญกับความท้าทายหลายประการ เช่น การพัฒนาเศรษฐกิจที่ยังพึ่งพาอินเดียและการท่องเที่ยว การเข้าถึงการศึกษาและบริการสาธารณะในพื้นที่ห่างไกล และแรงกดดันจากกระแสโลกาภิวัตน์ที่อาจส่งผลต่อวิถีชีวิตดั้งเดิม อย่างไรก็ตาม ความมุ่งมั่นในการรักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมควบคู่ไปกับการพัฒนาประชาธิปไตย ทำให้ภูฏานเป็นตัวอย่างที่น่าสนใจของการพัฒนาประเทศในแนวทางที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง Shutdown123
Comments on “ระบบการปกครองแบบกึ่งประชาธิปไตยในภูฏาน”